ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ราคาของใช้ต่าง ๆ แพงขึ้น ค่าน้ำมันแพงขึ้น ค่าครองชีพใด ๆ ต่างก็สูงขึ้นตามไปด้วย การที่คนคนหนึ่งจะเป็นเจ้าของรถยนต์สักคัน จึงอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ด้วยเหตุนี้ การเลือกซื้อรถยนต์มือสอง อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะรถมือสองจะมีราคาที่ถูกลง และถ้าเลือกดี ๆ ก็มีโอกาสที่จะได้รถยนต์สภาพดีมาใช้งาน
เพราะการมีรถยนต์อาจช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น การใช้รถยนต์มาช่วยในการประกอบอาชีพ ใช้บรรจุสัมภาระต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ รถยนต์จึงเป็นสิ่งจำเป็นของใครหลาย ๆ คน และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหารถมือสองดี ๆ สักคัน ขอแนะให้เลือกโดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้
เลือกรถมือสองให้ได้รถที่ดี ราคาโดนใจ
- เช็กสภาพรถยนต์เบื้องต้นว่ามีรอยเคยถูกชน รอยบุบ รอยเคาะ รอยขีดข่วน และร่องรอยการทำสีบ้างหรือไม่ อาจต้องพึ่งพาผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องรถมาช่วยดู เพราะรถบางคันก็ถูกตกแต่งจนแทบดูไม่ออกว่าเคยมีประวัติอะไรมาบ้าง
- สอบถามเจ้าของเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงรถยนต์ โดยลองขอดูประวัติการซ่อมล่าสุดว่ามีซ่อมอะไรไปบ้าง หากรถยนต์คันนั้นเป็นรถที่มีอายุหลายปีแล้ว ให้ลองถามว่าว่ามีเปลี่ยนอะไหล่และซ่อมอะไรไปบ้างแล้ว เพราะรถยนต์ที่อายุมากอาจซื้อได้แค่ประกันชั้น 3 มาคุ้มครองรถ
- เช็กสภาพห้องเครื่องขณะสตาร์ทรถว่ามีเสียงดัง มีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาหรือไม่ มีการรั่วซึมน้ำมันไหม รวมทั้งตอนที่เครื่องดับอยู่ ว่ามีคราบสิ่งสกปรกบริเวณขั้วแบตเตอรี่หรือคราบอื่น ๆ เกาะอยู่ใกล้เคียงบ้างหรือไม่
- ขอทดลองขับ เพื่อเช็กว่าว่าเวลาขับรถมีเสียงดังผิดปกติไหม พร้อมกับทดสอบระบบเบรกว่าทำงานได้ดีอยู่ไหม มีกลิ่นฉุนของน้ำมัน หรือควันดำจากท่อไอเสียหรือไม่
ขอแนะนำว่า การจะเลือกซื้อรถยนต์สักคัน ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสองก็ตาม อย่าเพิ่งรีบร้อนใจจะซื้อจนลืมเช็กส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ให้ละเอียดถี่ถ้วน และไม่ต้องเกรงใจเจ้าของรถจนเกินไป สามารถสอบถามข้อมูลต่าง ๆ และเช็กรถได้อย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวผู้ขับเอง และเมื่อเลือกรถยนต์มือสองรุ่นที่ถูกใจได้แล้ว อย่าลืมเลือกความคุ้มครองดี ๆ จากประกันรถยนต์ติดเอาไว้ด้วย โดยลองเปรียบเทียบความคุ้มครองและเบี้ยประกันดูก่อนได้ หรือถ้ารถที่ซื้อมาไม่ได้เป็นรถยนต์ที่มีความเสี่ยงอะไรมากนัก ก็เลือกประกันชั้น 3 ที่มีค่าเบี้ยประกันราคาประหยัดติดรถเอาไว้ก่อนก็ได้
อย่างไรก็ตาม การขับขี่รถยนต์ให้ปลอดภัยนั้น จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการเคารพกฎจราจร ขับขี่อย่างไม่ประมาท และไม่ใช่ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด เพราะหากเกิดความเสียหายขึ้น การทำประกันชั้น 3 ก็อาจจะช่วยได้ประมาณหนึ่ง แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครต้องการให้เกิดอุบัติเหตุแน่นอน